[Article] History's Jang Hee Bin in "Dong Yi" / พระสนมฮี จากตระกูลจัง ในละครเรื่อง " ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์"

https://top-korea.blogspot.com/2011/07/article-history-jang-hee-bin-in-yi.html
[Article] History's Jang Hee Bin in "Dong Yi"
Roytavan : writer
Original : http://twssg.blogspot.com/

History's Royal Noble Consort Hee of the Jang clan.

Hee-bin Jang Ok-jeong (1659–1701),She is only known to be a first cousin once removed of a tradesman Jang Hyeon and no records of who her father was. However, there are rumors that her father was Jo Sa-seok (Queen Jangryeol's brother), because Ok-jeong's mother (Lady Yoon) was his well known mistress.

Ok-jeong became Queen Jangryeol (Injo's second queen)'s lady's maid at recommendation of Prince Dongpyeong (Sukjong's cousin). Then in 1686, Sukjong discovered her after a visit with his step-great-grandmother (Queen Jangryeol, now the Dowager Queen Jaeoui) and made her his concubine and gave her the title of suk-won[9]. In 1688, she was promoted to so-ui, and in 1689 she gave birth to a son, and became hui-bin. When Inhyeon was forced into exile in May 1688, she became the Queen, backed by the Soron faction, and her son was entitled the Crown Prince, giving place to the Gisa Hwanguk.

Later in 1694, with the reinstatement of Inhyeon, Grand Concubine Oksan (see above) was demoted back to hui-bin. In 1701, Inhyeon died of an unknown disease, and Jang hui-bin was discovered by Sukjong in her chambers with her brother Jang Hui-jae and a Shamanist priestess praying for Inhyeon's death and her reinstatement. Jang hee-bin, her brother, and anyone involved was arrested and sentenced to death by poisoning. She was 43, and had two children: the future Gyeongjong and Princess Seongsu.

After this, Sukjong made a law prohibiting concubines from being allowed to become Queens in the future. Jang hui-bin left many folk stories behind including her greed over power, and a story involving right before her death with her son then the Crown Prince (future Gyeongjong)[10].

Nevertheless, since she was the mother of the Crown Prince, she was given the posthumous title "Oksan, Great Concubine of the Palace; Prefectural Great Concubine of the Jang clan" (대빈궁옥산부대빈장씨 大嬪宮玉山府大嬪張氏).



พระสนมฮี จากตระกูลจัง

พระสนมฮี จากตระกูลจัง (Royal Noble Consort Hee of the Jang clan, 희빈 장씨) ทรงเป็นพระสนมเอกในพระเจ้าซุกจงแห่งโชซอน แต่เดิมนั้นนางเป็นนางกำนัล ของพระมเหสีเมียงซองพระมเหสีในพระเจ้าฮยอนจงแห่งโชซอน เมื่อพระเจ้าซุกจงเสด็จไปเยี่ยมพระอัยยิกาของพระองค์ ก็ทรงพบนางที่ตำหนักของพระอัยยายิกาเมียงซอง ทรงรับนางมาอยู่ในวังและแต่งตั้งให้เป็นพระสนมจังซุกกี พระสนมขั้นที่สี่ หลังจากที่ได้รับการแต่งตั้งไม่นาน ก็ทรงมีประสูติกาลเป็นพระโอรสจึงได้เลื่อนพระยศเป็นพระสนมจังฮีบิน พระสนมขั้นที่่หนึ่ง และต่อมาเมื่อพระมเหสีอินฮยอนถูกปลดออกจากต่ำแหน่ง พระนางก็ได้เลื่อนขั้นเป็นพระมเหสี และแต่งตั้งพระโอรสของนาง ขึ้นเป็นองค์รัชทายาท (วังเซจา) พระเจ้าคยองจงแห่งโชซอน

แต่ในภายหลังพระเจ้าซุกจง ทรงคืนพระยศกลับให้พระมเหสีอินฮยอน และแต่งตั้งวังเซจาพระเจ้าคยองจงแห่งโชซอน พระโอรสของพระสนมจังฮีบินเป็นพระโอรสบุญธรรมในพระมเหสีอินฮยอน และลดตำ่แหน่งของพระนางเป็นพระสนมเอกตามเดิม ภายหลังจากการแต่งพระโอรสของนาง ให้เป็นพระโอรสบุญธรรมของพระมเหสีอินฮยอน พระเจ้าซุกจง ทรงมีพระดำริให้องค์รัชทายาท วังเซจาพระเจ้าคยองจงแห่งโชซอน เข้าพิธีอภิเษกสมรสกับหลานสาวของพระมเหสีอินฮยอน (พระมเหสีทันอึย) ทำให้ฝ่ายโนรนมีอำนาจมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ทำให้ขุนนางฝ่ายโซรนของพระสนมจังฮีบินอำนาจเสื่อมถอยลง และยังทำให้เกิดความบาดหมาง ระหว่างพระมเหสีอินฮยอนและพระสนมจังฮีบิน โดยเหตุผลที่ว่าพระสนมจังฮีบินไม่สามารถดูแลพระโอรสของพระนางเอง และพระโอรสของพระนางเองเรียกพระนางว่าพระสนมฮีบิน ไม่สามารถเรียกพระนางว่าแม่ได้

พระนางจึงวางแผนให้พระเชษฐาของพระนาง ว่าจ้างร่างทรงมาทำคุณไสยในวัง เพื่อให้พระมเหสีอินฮยอนประชวรและสิ้นพระชนม์
เมื่อภายหลังจากที่พระมเหสีอินฮยอนสิ้นพระชนม์แล้ว พระเจ้าซุกจงเสร็จไปที่ตำหนักของพระนาง ทรงพบเห็นนางร่างทรง ที่ทำพิธีเก็บสิ่งของที่ใช้ทำคุณไสยอยู่ในตำหนักของพระนาง จึงมีรับสั่งให้มหาดเล็กตรวจค้นตำหนัก และพบหุ่นฟางที่มีการเขียนดวงพระชะตาของพระมเหสีอินฮยอนติดไว้ ภาพวาดของพระมเหสีอินฮยอน คันธนู และมีดที่ใช้ปักไว้กับหุ่นฟาง ซุกซ่อนอยู่ด้านหลังของตำหนักของพระสนมจังฮีบิน จึงมีรับสั่งพระราชทานยาพิษให้กับพระนาง และประหารพระเชษฐาของพระนางด้วย

พระสนมฮี มีพระดอรสและพระธิดา 2 พระองค์ คือ องค์ชายรัชทายาท(วังเซจา)ต่อมาขึ้นเป็น พระเจ้าคยองจงแห่งโชซอน และ องค์หญิงซองซู


บทความที่เกี่ยวข้อง :

[Article] King Sukjong of Joseon "Dong Yi" / กษัตริย์ซุกจง แห่งราชวงศ์โชซอน ในละครเกาหลีเรื่องใหม่ "ดงอี"
[Article] History's Queen Inhyeon in "Dong Yi" / พระราชินีอินฮยอนในพระเจ้าซุกจง ในละครเรื่อง "ดงอี"
[Article] History's Jang Hee Bin in "Dong Yi" / พระสนมฮี จากตระกูลจัง ในละครเรื่อง "ดงอี"





...

[Article] History's Jang Hee Bin in "Dong Yi"
Roytavan : writer
Original : http://twssg.blogspot.com/

History's Royal Noble Consort Hee of the Jang clan.

Hee-bin Jang Ok-jeong (1659–1701),She is only known to be a first cousin once removed of a tradesman Jang Hyeon and no records of who her father was. However, there are rumors that her father was Jo Sa-seok (Queen Jangryeol's brother), because Ok-jeong's mother (Lady Yoon) was his well known mistress.

Ok-jeong became Queen Jangryeol (Injo's second queen)'s lady's maid at recommendation of Prince Dongpyeong (Sukjong's cousin). Then in 1686, Sukjong discovered her after a visit with his step-great-grandmother (Queen Jangryeol, now the Dowager Queen Jaeoui) and made her his concubine and gave her the title of suk-won[9]. In 1688, she was promoted to so-ui, and in 1689 she gave birth to a son, and became hui-bin. When Inhyeon was forced into exile in May 1688, she became the Queen, backed by the Soron faction, and her son was entitled the Crown Prince, giving place to the Gisa Hwanguk.

Later in 1694, with the reinstatement of Inhyeon, Grand Concubine Oksan (see above) was demoted back to hui-bin. In 1701, Inhyeon died of an unknown disease, and Jang hui-bin was discovered by Sukjong in her chambers with her brother Jang Hui-jae and a Shamanist priestess praying for Inhyeon's death and her reinstatement. Jang hee-bin, her brother, and anyone involved was arrested and sentenced to death by poisoning. She was 43, and had two children: the future Gyeongjong and Princess Seongsu.

After this, Sukjong made a law prohibiting concubines from being allowed to become Queens in the future. Jang hui-bin left many folk stories behind including her greed over power, and a story involving right before her death with her son then the Crown Prince (future Gyeongjong)[10].

Nevertheless, since she was the mother of the Crown Prince, she was given the posthumous title "Oksan, Great Concubine of the Palace; Prefectural Great Concubine of the Jang clan" (대빈궁옥산부대빈장씨 大嬪宮玉山府大嬪張氏).



พระสนมฮี จากตระกูลจัง

พระสนมฮี จากตระกูลจัง (Royal Noble Consort Hee of the Jang clan, 희빈 장씨) ทรงเป็นพระสนมเอกในพระเจ้าซุกจงแห่งโชซอน แต่เดิมนั้นนางเป็นนางกำนัล ของพระมเหสีเมียงซองพระมเหสีในพระเจ้าฮยอนจงแห่งโชซอน เมื่อพระเจ้าซุกจงเสด็จไปเยี่ยมพระอัยยิกาของพระองค์ ก็ทรงพบนางที่ตำหนักของพระอัยยายิกาเมียงซอง ทรงรับนางมาอยู่ในวังและแต่งตั้งให้เป็นพระสนมจังซุกกี พระสนมขั้นที่สี่ หลังจากที่ได้รับการแต่งตั้งไม่นาน ก็ทรงมีประสูติกาลเป็นพระโอรสจึงได้เลื่อนพระยศเป็นพระสนมจังฮีบิน พระสนมขั้นที่่หนึ่ง และต่อมาเมื่อพระมเหสีอินฮยอนถูกปลดออกจากต่ำแหน่ง พระนางก็ได้เลื่อนขั้นเป็นพระมเหสี และแต่งตั้งพระโอรสของนาง ขึ้นเป็นองค์รัชทายาท (วังเซจา) พระเจ้าคยองจงแห่งโชซอน

แต่ในภายหลังพระเจ้าซุกจง ทรงคืนพระยศกลับให้พระมเหสีอินฮยอน และแต่งตั้งวังเซจาพระเจ้าคยองจงแห่งโชซอน พระโอรสของพระสนมจังฮีบินเป็นพระโอรสบุญธรรมในพระมเหสีอินฮยอน และลดตำ่แหน่งของพระนางเป็นพระสนมเอกตามเดิม ภายหลังจากการแต่งพระโอรสของนาง ให้เป็นพระโอรสบุญธรรมของพระมเหสีอินฮยอน พระเจ้าซุกจง ทรงมีพระดำริให้องค์รัชทายาท วังเซจาพระเจ้าคยองจงแห่งโชซอน เข้าพิธีอภิเษกสมรสกับหลานสาวของพระมเหสีอินฮยอน (พระมเหสีทันอึย) ทำให้ฝ่ายโนรนมีอำนาจมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ทำให้ขุนนางฝ่ายโซรนของพระสนมจังฮีบินอำนาจเสื่อมถอยลง และยังทำให้เกิดความบาดหมาง ระหว่างพระมเหสีอินฮยอนและพระสนมจังฮีบิน โดยเหตุผลที่ว่าพระสนมจังฮีบินไม่สามารถดูแลพระโอรสของพระนางเอง และพระโอรสของพระนางเองเรียกพระนางว่าพระสนมฮีบิน ไม่สามารถเรียกพระนางว่าแม่ได้

พระนางจึงวางแผนให้พระเชษฐาของพระนาง ว่าจ้างร่างทรงมาทำคุณไสยในวัง เพื่อให้พระมเหสีอินฮยอนประชวรและสิ้นพระชนม์
เมื่อภายหลังจากที่พระมเหสีอินฮยอนสิ้นพระชนม์แล้ว พระเจ้าซุกจงเสร็จไปที่ตำหนักของพระนาง ทรงพบเห็นนางร่างทรง ที่ทำพิธีเก็บสิ่งของที่ใช้ทำคุณไสยอยู่ในตำหนักของพระนาง จึงมีรับสั่งให้มหาดเล็กตรวจค้นตำหนัก และพบหุ่นฟางที่มีการเขียนดวงพระชะตาของพระมเหสีอินฮยอนติดไว้ ภาพวาดของพระมเหสีอินฮยอน คันธนู และมีดที่ใช้ปักไว้กับหุ่นฟาง ซุกซ่อนอยู่ด้านหลังของตำหนักของพระสนมจังฮีบิน จึงมีรับสั่งพระราชทานยาพิษให้กับพระนาง และประหารพระเชษฐาของพระนางด้วย

พระสนมฮี มีพระดอรสและพระธิดา 2 พระองค์ คือ องค์ชายรัชทายาท(วังเซจา)ต่อมาขึ้นเป็น พระเจ้าคยองจงแห่งโชซอน และ องค์หญิงซองซู


บทความที่เกี่ยวข้อง :

[Article] King Sukjong of Joseon "Dong Yi" / กษัตริย์ซุกจง แห่งราชวงศ์โชซอน ในละครเกาหลีเรื่องใหม่ "ดงอี"
[Article] History's Queen Inhyeon in "Dong Yi" / พระราชินีอินฮยอนในพระเจ้าซุกจง ในละครเรื่อง "ดงอี"
[Article] History's Jang Hee Bin in "Dong Yi" / พระสนมฮี จากตระกูลจัง ในละครเรื่อง "ดงอี"





No comments:

Post a Comment

Copyright 2009 Simplex Celebs All rights reserved Designed by SimplexDesign